วิตามินซี หลายคนคงรู้จักดี ซึ่งเป็นวิตามินที่ได้จากธรรมชาติ ได้จากผัก ผลไม้หลากหลายชนิด เป็นวิตามินที่ช่วยเสริมภูมคุ้มกัน ช่วยป้องกันหวัด ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน และอีกหลายอย่างมาดูชนิดของวิตามินซีกัน มีกี่ชนิด1.แบบอัดเม็ด วิตามินซีประเภทนี้ โดยทั่วไปมีขนาดตั้งแต่ 25 – 1,000 มิลลิกรัม แต่ขนาดยอดนิยมทั่วไปคือ 500 และ 1,000 มิลลิกรัม ซึ่งหากเป็นไปได้ควรเลือกทานที่ระบุว่าเป็นแบบ Buffered, Sustained Release หรือ Slow Release เพราะตัววิตามินซีจะค่อย ๆ ปล่อยจากเม็ดยาช้า ๆ ทำให้วิตามินซีออกฤทธิ์ได้นานขึ้น อีกทั้งช่วยให้ไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร แต่ระดับวิตามินซีในกระแสเลือดที่ได้รับนั้นไม่แตกต่างจากรูปแบบเม็ดทั่วไปที่ปล่อยวิตามินซีแบบทันที2.แบบเม็ดอม มีตั้งแต่ 25 – 500 มิลลิกรัม เหมาะกับผู้ที่ไม่ชอบกลืนเป็นเม็ด แต่พึงระลึกไว้เสมอว่า การอมวิตามินซี แบบเม็ดบ่อย ๆ กรดที่ออกมาจะทำให้เคลือบฟันบางจนฟันกร่อนได้3.แบบเม็ดเคี้ยว โดยปกติมีขนาด 30 มิลลิกรัม เหมาะกับเด็ก เพราะมีรสหวานชวนทาน แต่ต้องระวังไว้ว่า ด้วยน้ำตาลที่มีปริมาณสูงอาจส่งผลให้เกิดฟันผุได้เมื่อรับประทานเป็นประจำ4.แบบเม็ดฟู่ โดยส่วนมากมักมาในขนาด 500 และ 1,000 มิลลิกรัม วิธีการทานที่ถูกต้องควรนำไปละลายในน้ำจนฟองหมด เพราะฟองแก๊สที่เกิดขึ้นเมื่อรับประทานเข้าไปอาจเกิดการแน่นท้องในภายหลังได้ วิตามินซีชนิดนี้เหมาะกับผู้ที่ไม่สามารถกลืนยาเม็ดขนาดใหญ่ได้ ข้อดี คือ เหมาะกับผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องการดูดซึม5.แบบแคปซูล มีทั้งแบบแคปซูลแข็งและแคปซูลนิ่ม แต่ละแคปซูลมีขนาด 500 มิลลิกรัม ข้อดี คือ กลืนง่ายสบายคอกว่าวิตามินซีรูปแบบอัดเม็ด6.แบบสารละลายเพื่อฉีด ขนาดจะอยู่ที่ 500 มิลลิกรัม เป็นวิตามินซีแบบที่เหมาะกับการป้องกันหวัดที่ดีที่สุด แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการฉีด ข้อดีก็ คือ ออกฤทธิ์เร็วและร่างกายสามารถเอาวิตามินซีไปบำรุงซ่อมแซมได้ทันที เพราะไม่ต้องผ่านการย่อยจากกระเพาะอาหาร
ทานวิตามินซีให้ได้คุณค่าสูงสุด
1. ทานพร้อมอาหารมื้อเช้าและมื้อเย็น เพราะวิตามินซีจะถูกขับออกภายใน 2 – 3 ชั่วโมง ดังนั้นการรักษาระดับวิตามินซีในเลือดให้สูงเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพ
2. บรรเทาหวัด ทานวิตามินซี 1,000 มิลลิกรัม วันละ 2 เวลา ช่วยให้ระดับฮิสตามีน สารที่ทำให้น้ำตาน้ำมูกไหลลดลงได้ถึงร้อยละ 40
3. ผู้ที่เป็นเบาหวาน ควรรับประทานวิตามินซีวันละ 1,000 มิลลิกรัม เพราะวิตามินซีจะเข้าไปช่วยลดสารอนุมูลอิสระและการอักเสบของหลอดเลือด อีกทั้งช่วยป้องกันอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคไตวาย เป็นต้น
4. เพิ่มประสิทธิภาพวิตามินซี ด้วยการทานร่วมกับแคลเซียม แมกนีเซียม และไบโอฟลาโวนอยด์
5. สัญญาณเมื่อได้รับวิตามินซีเกิน เช่น อาการท้องเสีย เป็นต้น ซึ่งอาจเกิดได้กับคนที่ทานวิตามินซีในปริมาณที่สูงมาก ๆ เช่น 8,000 มิลลิกรัมขึ้นไป ซึ่งไม่ใช่ทุกคนจะเป็น เพราะร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนก็สามารถย่อยวิตามินซีได้วันละหลายกรัมเลยทีเดียว
ปริมาณวิตามินซีที่ควรได้รับ
ในทางศาสตร์ชะลอวัยคนเราควรทานวิตามินซีวันละ 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน จะช่วยในเรื่องภูมิต้านทานร่างกายและการบำรุงผิวพรรณ แต่สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคหวัดหรือภูมิแพ้บ่อย ควรทานวิตามินซี 2,000 มิลลิกรัมหรือมากกว่านั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล ซึ่งหากอยากรู้แน่ชัดว่าร่างกายเราต้องการวิตามินเท่าไรต้องปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการขอบคุณข้อมูลดีดีจาก https://www.bangkokhospital.com/
#boomvitc #บูมวิตซี วิตามินซีจากธรรมชาติ ซึ่งสามารถดูดซึม ได้ดีกว่า และสามารถอยู่ในร่างกายได้นานถึง 6 ชั่วโมง โดยไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร ไม่ทำลายสารเคลือบฟัน และยังให้สารอาหารอื่นๆ นอกเหนือวิตามินซี